1.เตรียมดิน: เลือกที่ปลูกที่มีแสงแดดมากและดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี เตรียมดินโดยการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเติมธาตุอาหารให้ดินอุดมสมบูรณ์

2.การเพาะเมล็ด: ใส่เมล็ดทานตะวันลงในดินโดยการหว่านบนพื้นหรือเพาะในถาดเพาะเมล็ด ปรับเรียงเมล็ดให้ห่างกันประมาณ 10-15 เซนติเมตร แล้วคลุกเมล็ดด้วยดินบางๆ เพื่อปกป้องเมล็ดจากแสงแดดตรง

3.การรดน้ำ: รดน้ำให้ชุ่มเมื่อดินแห้ง แต่ไม่ควรทำให้ดินเปียกเกินไป เพราะอาจทำให้เมล็ดเน่าได้ หลังจากรดน้ำเสร็จให้ปิดฝาดินด้วยฟองโฟมหรือแผ่นพลาสติกเพื่อรักษาความชื้นในดิน

4.การดูแลรักษา: เมื่อต้นกล้างอกขึ้นแล้ว ควรรดน้ำอย่างเสมอและให้ปุ๋ยทางใบหรือปุ๋ยเกร็ดเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้น ตรวจสอบและกำจัดวัชพืชที่เจริญขึ้นรอบๆ ต้นกล้า

5.การตัดแต่ง: เมื่อต้นกล้ามีใบจริงประมาณ 2-3 ใบ สามารถทำการตัดแต่งโดยการตัดใบอ่อนที่อยู่ด้านล่างของต้น เพื่อให้พืชมีพื้นที่ในการเจริญเติบโตและการระบายอากาศได้ดีขึ้น

6.การรอดอกบาน: เมื่อต้นกล้าเติบโตใหญ่ขึ้น และมีลำต้นแข็งแรง ลำต้นจะเริ่มหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ เมื่อดอกทานตะวันเริ่มบาน ควรเริ่มให้ปุ๋ยที่มีส่วนผสมเสมอเพื่อส่งเสริมให้ดอกบานมากขึ้น

7.การเก็บเกี่ยว: เมื่อดอกทานตะวันเริ่มสลดลงและเมล็ดเริ่มแก่สุก เริ่มเก็บเกี่ยวเมล็ดทานตะวันได้โดยหลีกเลี่ยงการเก็บเมล็ดที่มีสัญญาณการแตกของดอกทานตะวันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้เมล็ดที่สุกและเต็มที่ที่สุด